Friday, 6 December 2024

รู้หรือไม่ คริบแมวหรือทำหมันแมว ราคาเท่าไหร่ และสิ่งที่ควรต้องรู้ก่อนทำมีอะไรบ้าง

เมื่อน้องแมวถึงช่วงวัยของการผสมพันธุ์เหล่าทาสแมวทั้งหลายก็คงต่างหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำหมันหรือที่หลายคนเรียกว่าคริบแมว โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัย สถานที่ทำหมันที่มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงเรื่องของราคาเพื่อจะได้จัดเตรียมเงินไว้สำหรับทำหมันแมวอย่างเพียงพอ ทำให้ทาสแมวเกิดคำถามขึ้นว่า การทำหมันแมวนั้นมีราคาเท่าไหร่ และควรที่จะทำหมันแมวที่ไหนดี เพื่อน้องแมวจะได้ไม่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายระหว่างการทำหมัน วันนี้เรามีคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝาก จะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลยดีกว่า

รู้หรือไม่ คริบแมวหรือทำหมันแมว ราคาเท่าไหร่

ทำความเข้าใจ การทำหมันแมว คืออะไร

การทำหมันแมว เป็นขั้นตอนการผ่าตัดสำหรับแมวเพศเมียเมื่ออายุ 4 – 6 เดือนขึ้นไป ในส่วนของตัวผู้สามารถทำหมันได้ทุกช่วงวัย โดยการผ่าตัดเพื่อเอามดลูกหรืออัณฑะออก เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้น้องแมวพ่นปัสสาวะ หรือต่อสู้กับแมวตัวอื่น และลดโอกาสเกิดมะเร็งบางชนิดในแมวได้อีกด้วย รวมถึงป้องกันการผสมพันธุ์เมื่อทาสแมวไม่พร้อม โดยการคริบแมวหรือการทำหมันแมวทำได้โดยสัตวแพทย์ หรือช่างเทคนิคด้านสัตวแพทย์ สำหรับการผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 10 นาที โดยใช้วิธีการดมยาสลบ หรือยาชาเฉพาะที่เมื่อทำการผ่าตัดเรียบร้อยแล้วอาจจะต้องรอน้องแมวฟื้นตัวสักระยะ และควรดูแลอย่างใกล้ชิด

ข้อดีที่ได้จากการทำหมันแมวมีอะไรบ้าง

การทำหมันเป็นขั้นตอนการผ่าตัดเพื่อเอาอวัยวะสืบพันธุ์ออกโดยจุดประสงค์หลักของทาสแมวโดยส่วนใหญ่คือ เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์แพร่พันธุ์อย่างอิสระจนควบคุมไม่ได้ แต่นอกจากนี้ การทำหมันแมวยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว กับขข้อดีที่ได้จากการทำหมันแมวดังนี้

  • แมวที่ทำหมันแล้วจะมีอายุยืนยาวกว่าแมวที่ไม่ได้ทำหมัน
  • มีโอกาสน้อยที่จะหลงทาง นั่นหมายความว่าน้องแมวจะอยู่บ้านมากกว่าการออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก
  • ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดพฤติกรรมก้าวร้าว เกเร ทำให้น้องแมวไม่ค่อยต่อสู้ หรือแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวกับแมวตัวอื่นๆ
  • ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในแมวตัวเมีย เนื่องจากการตั้งครรภ์และการคลอดลูก ช่วยให้น้องแมวมีอายุที่ยืนยาว
  • ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมของแม่แมว
  • ลดพฤติกรรมในช่วงวัยเจริญพันธุ์ เช่น การปัสสาวะเรี่ยราด การร้องหง่าวในช่วงกลางคืน

วิธีดูแลแมวทำหมัน

หลังจากทำหมันแล้วฮอร์โมนของแมวจะเปลี่ยนแปลง และไม่เข้าสู่ช่วงเจริญพันธุ์ได้อีกต่อไป แต่แมวที่ทำหมันแล้วอาจจะยังสามารถกระตุ้นให้ทำเครื่องหมายอาณาเขตของพวกเขาได้เช่นเดิม แต่อาจจะไม่มากเท่ากับก่อนทำหมัน ในส่วนของวิธีดูแลน้องแมวทำหมันสามารถทำได้ดังนี้

  • สิ่งสำคัญที่คุณจะต้องคอยดูแลคือการให้วัคซีนแก่แมวของคุณ แม้ว่าจะได้ทำหมันแล้วก็ตาม
  • คอยสังเกตอาการติดเชื้อ หรือการอักเสบบริเวณรอยกรีด และรักษาด้วยยาปฏิชีวนะทันทีหากมีการติดเชื้อขึ้น เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของน้องแมวได้
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแมวของคุณจะไม่มีน้ำหนักเกิน เพราะอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดมีโอกาสมากขึ้น
  • หลังทำหมันมาแล้วหากมีอาการแมวตัวร้อน ให้สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบพาไปหาสัตว์แพทย์ทันที และสิ่งสำคัญก็คือ ไม่ควรใช้ยาลดไข้เด็กในการรักษาแมวโดยเด็ดขาด

การทำหมันแมว มีราคาเท่าไหร่ และสามารถทำที่ไหนได้บ้าง

หลายคนกังวลว่าการทำหมันแมวนั้นอาจจะมีราคาที่สูงจึงไม่กล้าพาน้องแมวไปทำหมัน เพราะกังวลเรื่องของค่าใช้จ่าย แต่จริง ๆ แล้วการทำหมันแมวนั้นไม่ได้มีราคาที่สูงมากนัก โดยราคาทั่วไปจะเริ่มตั้งแต่ 500 บาท ไปจนถึง 3,000 บาท ซึ่งแล้วแต่สถานที่การบริการ และหากมีบริการเสริมอื่น ๆ ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น สำหรับการทำหมันของตัวผู้ และตัวเมียจะมีราคาที่แตกต่างกัน รวมถึงวิธีการหรือขั้นตอนในการทำหมัน โดยตัวผู้มักจะมีราคาที่ถูกกว่า และมีขั้นตอนที่สามารถทำง่ายกว่าตัวเมีย และที่สำคัญมีความเสี่ยงหลังการทำหมันน้อยกว่าอีกด้วย โดยปกติแล้วคลินิกรักษาสัตว์ หรือโรงพยาบาลสัตว์ทุกแห่ง จะเปิดให้บริการทำหมันแมวได้เกือบทุกที่ เพราะฉะนั้นหากคุณต้องการที่จะนำน้องแมวไปทำหมัน สิ่งสำคัญที่สุดคือ ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือได้ สะอาด มีใบรับรองอนุญาต เพื่อสุขภาพที่ดีหลังจากการทำหมันแมว และป้องกันโอกาสติดเชื้อหลังการทำหมันแมวอีกด้วย เพราะหากคุณเลือกสถานบริการที่ไม่ดี จะทำให้น้องแมวมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้นั่นเอง

ทั้งหมดนี้ก็เป็นความรู้เกี่ยวกับการทำหมันแมว เพราะฉะนั้นหากคุณไม่ต้องการที่จะขนายพันธ์แมวการทำหมันแมวถือเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันการผสมพันธุ์แล้วยังช่วยให้น้องแมวของคุณมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อน้องแมวถึงช่วงวัยสำหรับทำหมันแมวอย่ามัวรอช้า ในส่วนของเรื่องค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้สูงจนเกินไป หรืออาจจะปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนก็ได้